สอวช. จัดประชุมทำความเข้าใจ การจัดตั้ง University Holding Company ให้กับ มรภ.-มทร. หวังดึงพลังเครือข่ายมหาวิทยาลัย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

สอวช. จัดประชุมทำความเข้าใจ การจัดตั้ง University Holding Company ให้กับ มรภ.-มทร. หวังดึงพลังเครือข่ายมหาวิทยาลัย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงแนวทางส่งเสริมการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมจากสถาบันอุดมศึกษา สู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ด้วยกลไก University Holding Company ของกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ ณ โรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 200 คน เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566

ศ.ดร.ศุภชัย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการประชุมในครั้งนี้ว่า หลังมีการประกาศระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการ่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ในโครงการซึ่งนำผลวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้กับสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ หน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจและวัตถุประสงค์ด้านการวิจัยและนวัตกรรม และหน่วยงานของรัฐตามที่สภานโยบายกำหนด ทำให้เกิดคำถามถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินงาน University Holding Company ของกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏและกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล จึงเป็นที่มาของการประชุมในวันนี้ เพื่อเป็นเวทีในการทำความเข้าใจให้กับมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อน University Holding Company ในกลุ่มมหาวิทยาลัย

ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กล่าวว่า การส่งเสริมนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมจากสถาบันอุดมศึกษา สู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ด้วยกลไก University Holding Company จะเป็นพลังที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวอยู่ในขณะนี้ได้ และเชื่อว่ามหาวิทยาลัยและประชาคมเครือข่ายนวัตกรรม จะเป็นพลังสำคัญในการขยับเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ การจัดตั้ง University Holding Company เพื่อทำการร่วมลงทุน สามารถดำเนินการได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งจัดตั้งโดยมหาวิทยาลัยเดียวหรือรวมกลุ่มมหาวิทยาลัยเพื่อใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ร่วมกัน

ดร.กิติพงค์ ได้ยกตัวอย่างเศรษฐกิจประเทศจีนที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากรัฐบาลใช้นโยบายสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมหรือ Innovation Driven Enterprises (IDE) ซึ่งประกอบธุรกิจโดยอาศัยนวัตกรรมทั้งในการพัฒนาสินค้าและกระบวนการผลิต ในส่วนของประเทศไทยก็มี IDE ที่ประสบความสำเร็จหลายบริษัท ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่อุตสาหกรรมที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง (Deep tech) เท่านั้น แต่รวมไปถึงบริษัทในอุตสาหกรรมการเกษตร อาหาร การบริการต่าง ๆ ซึ่งหากได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจังก็จะช่วยให้เติบโตขยายขนาดหรือ scale-up ต่อได้

หลังจากนี้ จะมีการ Spin-off หน่วยบริหารจัดการทุนภายใต้โครงสร้างเดิม ไปเป็นสำนักงานเร่งรัดการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มความสามารถการแข่งขันและการพัฒนาพื้นที่ (รวพ.) องค์การมหาชน ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถทำการร่วมลงทุนในธุรกิจสตาร์ตอัปได้ นอกจากนี้ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการ่วมลงทุนฯ ได้มีการปลดล็อก ให้อาจารย์ นักวิจัย หรือบุคลากรในมหาลัย สามารถออกไปเป็นสตาร์ตอัปได้

คุณนิรดา วีระโสภณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สอวช. กล่าวถึงกฎหมายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการร่วมลงทุนและการจัดตั้ง University Holding Company โดยระบุว่า ปัจจัยที่มหาวิทยาลัยต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนการจัดตั้งคือ จำนวนผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่พร้อมใช้ประโยชน์ บุคลากรที่สามารถดำเนินการในธุรกิจนวัตกรรม ตลอดจนระบบสนับสนุนการเชื่อมโยงงานนวัตกรรมไปสู่การดำเนินธุรกิจ และงบประมาณในการจัดตั้งและงบประมาณสำหรับการร่วมทุน

คุณนิรดา ยังได้กล่าวถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้ง University Holding Company ว่า มี พ.ร.บ. การอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 มาตรา 39 ที่กำหนดให้มีการนำผลวิจัยและนวัตกรรมของสถาบันอุดมศึกษาไปใช้ประโยชน์ สถาบันอุดมศึกษาอาจจัดตั้งนิติบุคคลหรือร่วมลงทุนกับหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำผลการวิจัยและนวัตกรรมของสถาบันอุดมศึกษาไปใช้ประโยชน์ได้ นอกจากนี้ ยังมี พ.ร.บ.ส่งเสริม ววน. พ.ศ. 2562 มาตรา 31 ที่กำหนดว่า เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ หน่วยงานของรัฐอาจร่วมลงทุนในโครงการซึ่งนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ได้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สภานโยบายกำหนด และได้ชี้แจงถึงข้อกังวลเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความเป็นรัฐวิสาหกิจของ Holding company อีกด้วย

ทั้งนี้ในการประชุมได้มีการแบ่งกลุ่มย่อย เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกลไก University Holding Company โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มสถาบันอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรม และกลุ่มสถาบันอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาเชิงพื้นที่ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำ University Holding Company รวมถึงบริษัทสตาร์ตอัปสปินออฟภาคเอกชนที่มีการทำงานร่วมกับ University Holding Company เป็นผู้แนะนำและถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับทั้ง 2 กลุ่มมหาวิทยาลัย

จากนั้นได้มีการแลกเปลี่ยนมุมมอง และตอบข้อซักถาม ซึ่งความเห็นส่วนใหญ่พบว่า กฎและระเบียบบางอย่างยังเป็นอุปสรรคที่ทำให้ University Holding Company เติบโตได้ยาก แต่ทางกลุ่มมหาวิทยาลัยมองเห็นถึงศักยภาพ โอกาส และประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากกลไกดังกล่าว การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันในครั้งนี้ จึงถือเป็นการสะท้อนให้เห็นข้อจำกัดในการดำเนินการจริงของมหาวิทยาลัย ที่จะเป็นข้อมูลให้กระทรวง อว. และ สอวช. ร่วมดำเนินการและหาแนวทางส่งเสริมสนับสนุนที่เหมาะสมให้กับมหาวิทยาลัยต่อไป

Loading

Share this post


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า