ครั้งแรกในไทย! จัดแสดง “ชิ้นส่วนดาวเคราะห์น้อยริวกู” ของจริงจากห้วงอวกาศ 9-17 สิงหาคม 2568 ในงาน อว. แฟร์ 2025 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NARIT) ร่วมกับ องค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) จัดแสดง “ชิ้นส่วนดาวเคราะห์น้อยริวกู” ของจริง ในงาน อว.แฟร์ โซน F ระหว่างวันที่ 9-17 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ เป็นการจัดแสดงนอกประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกในเอเชีย โอกาสพิเศษ! ที่คนไทยจะได้ชมวัตถุจากนอกโลกที่หาดูได้ยากที่สุดในโลก ด้วยตาของคุณเอง ! ชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมเยี่ยมชมบูทนิทรรศการ NARIT ภายใต้แนวคิด “ASTRONOMY+” เมื่อ “ดาราศาสตร์เป็นมากกว่าการดูดาว” พบกับงานวิจัย และงานพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงด้านดาราศาสตร์ ที่จะกลายเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการสร้างอนาคตของประเทศไทย

ดาวเคราะห์น้อยริวกู (Ryugu) เป็นดาวเคราะห์น้อยประเภท C (คาร์บอนิก) มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 870 เมตร อยู่ในกลุ่มดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก เชื่อกันว่าเป็นวัตถุโบราณที่หลงเหลือจากการก่อตัวของระบบสุริยะ และมีองค์ประกอบของสารอินทรีย์และน้ำ จึงเป็นเป้าหมายสำคัญของการศึกษาเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโลกและสิ่งมีชีวิต ซึ่งภารกิจฮายาบูสะ 2 สามารถเก็บตัวอย่างจากใต้พื้นผิวของดาวเคราะห์น้อยริวกู และนำกลับสู่โลกได้สำเร็จเมื่อปี 2020 นับเป็นชิ้นส่วนจากใต้พื้นผิวของดาวเคราะห์น้อยชิ้นแรกในประวัติศาสตร์ที่มนุษย์นำกลับมาได้ นับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจต้นกำเนิดของระบบสุริยะได้มากยิ่งขึ้น

คุณสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมผู้บริหาร อว. และผู้มีเกียรติ เยี่ยมชมนิทรรศการชิ้นส่วนดาวเคราะห์น้อยริวกู ณ บูทของ สดร. ในโอกาสมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานอว.แฟร์ 2025 อย่างเป็นทางการ ช่วงเช้าวันที่ 9 สิงหาคม 68

นอกจากนี้ ชวนชมชิ้นส่วน “อุกกาบาตแคมโป เดล เซียโล” อุกกาบาตเหล็กของจริง หนักประมาณ 97 กิโลกรัม มีองค์ประกอบหลักเป็นเหล็กและนิเกิล ตกมาสู่พื้นโลกเมื่อประมาณ 4,000-5,000 ปีที่แล้ว ณ ประเทศอาร์เจนตินา และหินภูเขาไฟจากลาพาลมาที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นบนโลกเมื่อเพียง 4 ปีที่แล้ว

ทั้งหมดนี้ พบกันได้ที่บูทนิทรรศการ NARIT ภายใต้แนวคิด “ASTRONOMY+” ชวนมาสำรวจภารกิจองค์กร และเปิดมุมมองใหม่ที่ “ดาราศาสตร์เป็นมากกว่าการดูดาว” พบกับงานวิจัย และการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงด้านดาราศาสตร์ ที่จะกลายเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการสร้างอนาคตของประเทศไทย ได้แก่

• งานวิจัยวิทยาศาสตร์บรรยากาศ : ไขความลับแหล่งกำเนิด PM2.5 ด้วย ACSM (Aerosol Chemical Specifications Monitoring) อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ศึกษาต้นตอ PM2.5 มุ่งแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด เพื่ออากาศบริสุทธิ์ของคนไทยทุกคน
• งานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ: ผลงานการพัฒนาอุปกรณ์วิจัยและดาวเทียมฝีมือคนไทย เช่น -CE-7 MATCH และ CE-8 ALIGN อุปกรณ์วิจัยวิทยาศาสตร์ (Payload) ของไทยที่จะส่งไปกับภารกิจฉางเอ๋อ 7 และ 8 ภายใต้โครงการInternational Lunar Research Station (ILRS) -ดาวเทียม TSC-1 ภายใต้ภาคีความร่วมมืออวกาศไทย -Cubesat 3U และ 6U ต้นแบบกล้องโทรทรรศน์อวกาศ  -ต้นแบบวิศวกรรมดาวเทียม SSACube-1 สำหรับศึกษารังสี cosmic
• เปิดตัวกล้องโทรทรรศน์วิทยุแบบวีกอสแห่งแรกในประเทศไทย สำหรับศึกษาวิจัยด้านภูมิมาตรศาสตร์ (Geodesy) การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก
• เทคโนโลยีกล้องโทรทรรศน์ฝีมือคนไทย ขนาด 0.8 เมตร เตรียมนำไปติดตั้งและใช้งาน ณ หอดูดาวภูมิภาคสำหรับประชาชน จ.พิษณุโลก