ฟีโบ้ มจธ. จัดงาน “หุ่นยนต์ไม่กัด : เปิดโลกหุ่นยนต์ และ Al แบบสนุก เข้าใจง่าย” หวังให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างรู้เท่าทัน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“ปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Al และหุ่นยนต์ เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการใช้ชีวิตประจำวัน ที่บางครั้งเราอาจไม่รู้ตัวว่า กำลังถูกนำโดย Al และหุ่นยนต์อยู่ เช่น เมื่อเราต้องการค้นหา ร้านอาหารหรือสินค้า เรามักจะได้รับคำแนะนำจาก Influencers หรือการแนะนำต่าง ๆ ซึ่งเบื้องหลังสิ่งเหล่านี้คือ อัลกอริทีม Al ที่เรียนรู้จากพฤติกรรมของเรา และพยายามที่จะแนะนำหรือชักจูงให้เราทำตาม เช่น ไปกินข้าว ร้านที่แนะนำหรือซื้อของตามคำแนะนำ ทำให้เกิดคำถามที่น่าสนใจคือ “ใครควบคุมใครกันแน่” ระหว่างมนุษย์กับ Al และหุ่นยนต์ ดังนั้น การจะใช้ประโยชน์จาก AI เราควรต้องทำอย่างไร และต้องระวังอะไรบ้าง และหากเราเป็นผู้ควบคุม เราจะต้องรู้เท่าทันในเรื่องนี้อย่างไร” ผศ. ดร.สุภชัย วงศ์บุณย์ยง ผู้อำนวยการ สถาบัน วิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (ฟีโบ้) กล่าว “หุ่นยนต์ไม่กัด : เปิดโลกหุ่นยนต์และ AI แบบบสนุก เข้าใจง่าย” ที่จัดขึ้นโดยสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เมื่อวันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน 2568 ณ SCBX Next Tech ชั้น 4 สยามพารากอน กรุงเทพฯ
มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดมุมมองและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ Al และหุ่นยนต์ สำหรับคนทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มครอบครัว เด็กและเยาวชน เพราะ ปัจจุบัน AI และหุ่นยนต์ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์และรู้เท่าทันเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยกิจกรรมไฮไลต์ภายในงาน พบกับการสัมผัสประสบการณ์ที่จะเชื่อมทุกท่านเข้ากับโลกเสมือนจริงผ่านแว่นตา HoloLens การจัด Workshop การแสดงผลงาน และเวทีเสวนาในประเด็นที่น่าสนใจอาทิ “หุ่นยนต์และ AI เราคุมมัน หรือมันคุมเรา?” เรียนหุ่นยนต์ อนาคตไปไหน?” และ “จากเกิดจนโต AI ทำอะไรกับลูกคุณบ้าง?” โดยทีมอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์จากฟีโบ้
ผศ. ดร.สุภชัย กล่าวว่า เป้าหมายหนึ่งของงานคือ การช่วยให้ผู้คนได้รู้เท่าทัน และเข้าใจว่า เราจะใช้ประโยชน์จาก AI อย่างไร เพื่อให้ชีวิตเราดีขึ้นมากกว่าแค่การกังวลว่า AI จะมาแย่งงาน เพราะเริ่มมีความเข้าใจ กันมากขึ้นแล้ว แต่ประเด็นที่เราควรพูดถึงตอนนี้คือจะปรับตัวอย่างไร และจะใช้ Al และหุ่นยนต์อย่างไรให้เกิดประโยชน์เพื่อทำให้ชีวิตของคนเราดีขึ้น เพราะถ้าเราใช้ AI อย่างไม่ถูกต้องอาจมีผลเสียได้ ดังนั้นจึงต้องสร้างความตระหนักรู้ (awareness) เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะผลกระทบต่อด้านการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็กในยุคดิจิทัล
โดยในการเสวนาหัวข้อ “จากเกิดจนโต AI ทำอะไรกับลูกคุณบ้าง?“
ผศ. ดร.สุภชัย กล่าวว่า หัวข้อนี้ฟัง ดูแล้วน่ากลัว ซึ่งเราก็เห็นว่าน่ากลัว เนื่องจาก AI อยู่ในทุกที่ สำหรับเด็กที่เกิดมาในยุคปัจจุบันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ชีวิตโดยไม่มี AI สามารถเริ่มเล่นกับหุ่นยนต์ได้ตั้งแต่เด็ก หัวข้อนี้จึงเน้นให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของ AI ในบริบทของการเรียนรู้ เพื่อสร้างความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของการเรียนและเน้นความสำคัญของการสอนให้ใช้ Al เป็นเพียงผู้ช่วย ยกตัวอย่างปัญหาการใช้ AI ในการทำการบ้านของเด็กและการตรวจการบ้านของครู ซึ่งอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ AI เก่งขึ้นเรื่อย ๆ แต่คนกลับถดถอยหรือแย่ลง หากไม่ได้ใช้ความคิดหรือทักษะ ดังนั้น หัวข้อนี้เราต้องการเน้นย้ำให้เห็นว่า ในยุคที่มี Al การเรียนการสอนต้องเปลี่ยนไป โดยไม่ควรใช้ AI เพื่อเอาคำตอบเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องมีการคิดวิเคราะห์ (critical thinking) เพื่อตัดสินว่าสิ่งที่ AI ตอบนั้นถูกต้องหรือไม่และมีอะไรที่เราต้องตัดสินใจเอง เราต้องใช้ความคิดให้มากขึ้น ไม่ใช่การให้มันเป็นคำตอบสุดท้ายและต้องสอนให้ผู้เรียนตั้งคำถามกับมันเป็น
สำหรับ ‘เรียนหุ่นยนต์ อนาคตไปไหน?” หัวข้อนี้ จะอธิบายถึงการเรียนหุ่นยนต์นั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่การแข่งขันเพียงอย่างเดียว แต่มีโอกาสที่เปิดกว้างกว่านั้นมาก เช่น การเป็น Robotic Engineer ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ ควบคุมหุ่นยนต์และ AI ในภาคอุตสาหกรรมและบริการ, การเป็น Researcher หรือนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานวิจัยหุ่นยนต์ขั้นสูง หรือการเป็น Entrepreneur ในสายงานหุ่นยนต์ ยกตัวอย่างบุคคลและบริษัททั้งในไทยและบริษัทที่เกี่ยวข้องในระดับโลก เช่น Marc Raibert (ผู้ก่อตั้ง Boston Dynamic), Rodney Brooks (ผู้ก่อตั้ง iRobot, Rethink Robotics) เป็นต้น
ผู้อำนวยการ ฟีโบ้ กล่าวตอนท้ายว่า คาดหวังว่า การจัดงานครั้งนี้ จะทำให้ผู้เข้าร่วมงานโดยเฉพาะกลุ่ม ผู้ปกครองและเด็ก ได้รับประสบการณ์และเปิดมุมมองเกี่ยวกับ Al และหุ่นยนต์ ได้เรียนรู้วิธีที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความตระหนักรู้ ถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้อย่างไม่ถูกต้อง และที่สำคัญที่สุดคือ การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ เพื่อที่เราจะเป็นผู้ควบคุม และใช้ AI เป็นเครื่องมืออย่างแท้จริง แทนที่จะถูกควบคุมหรือพึ่งพา Al จนเสียความสามารถของตนเองไป
“การรู้เท่าทัน จะช่วยให้เข้าใจว่า AI ไม่ได้น่ากลัว หรือ “กัด” อย่างที่คิด แต่ควรใช้มันอย่างถูกวิธีและระวังผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้หากใช้อย่างไม่เหมาะสม“